วันจันทร์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2556

Pompeii - Bastille

ศิลปิน BASTILLE
เพลง Pompeii

Pompeii (ปอมเปอี) เป็นซิงเกิ้ลที่ถูกปล่อยมาในเดือน กุมภาพันธ์ 2013 ของวง BASTILLE ซึ่งเป็นวง Alternative rock จากเมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษ 
ปัจจุบันมีสมาชิกในวงทั้งหมด 4 คน คือ Dan Smith, Chris 'Woody' Wood, Will Farquarson และ Kyle Simmons 
ชื่อของวงนั้นมีที่มาจาก วันบาสตีล ซึ่งตรงกับวันที่ 14 มิถุนายน 
เพื่อรำลึกถึงการโจมตีคุกบาสตีลในฝรั่งเศส ซึ่งตรงกับวันเกิดของนักร้องนำ Dan smith พอดี


โดยรวมๆ เพลงนี้หมายความว่า มนุษย์ไม่ค่อยเรียนรู้จากประวัติศาสตร์ จากความผิดพลาด จนทำให้ตัวเองเกิดหายนะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากความเห็นแก่ตัวหรือความโลภ โดยเปรียบเทียบกับเมืองปอมเปอีที่ล่มสลาย หลายคนกล่าวว่าการที่เมืองนี้ล่มสลายเป็นการกระทำของพระเจ้า เนื่องจากเป็นเมืองคนบาป พูดง่ายๆ คือ เพราะคนนิสัยไม่ดีเลยทำให้เมืองถูกทำลาย

เป็นเพลงที่มีความหมายแฝง ดังนั้นการแปลก็เลย...ไปบ้าง คงไม่ว่ากันนะ :D




I was left to my own devices
Many days fell away with nothing to show

ผมถูกปล่อยทิ้งไว้กับสมบัติส่วนตัว
วันหมุนเวียนผ่านโดยไม่มีอะไรเกิดขึ้น

And the walls kept tumbling down
In the city that we love
Great clouds roll over the hills
Bringing darkness from above

และกำแพงยังคงทรุดโทรมลง
ในเมืองที่เรารัก
ปุยเมฆเหนือเนินเขา
นำพาความมืดจากเบื้องบน

But if you close your eyes,
Does it almost feel like
Nothing changed at all?
And if you close your eyes,
Does it almost feel like
You've been here before?
How am I gonna be an optimist about this?
How am I gonna be an optimist about this?

แต่ถ้าลองหลับตา (หยุดคิดถึงปัญหาตัวเอง)
มันรู้สึกคล้ายกับว่า
ยังคงไม่มีอะไรเปลี่ยน (จากความผิดพลาดที่ผ่านมา เรายังคงไม่ทำอะไรที่จะช่วยให้มันดีขึ้นมา)
และถ้าลองหลับตา
มันรู้สึกคล้ายกับว่า
เคยอยู่ตรงนี้มาก่อน (เรายังคงทำผิดพลาดเหมือนเดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่า)
แล้วผมจะยังมองโลกสวยงามอยู่ได้อย่างไร
แล้วผมจะยังมองโลกสวยงามอยู่ได้อย่างไร

We were caught up and lost in all of our vices
In your pose as the dust settles around us

เราถูกไล่ตามและหลงทางในความเลวร้ายทั้งหลายที่เราเป็นผู้สร้างขึ้นมา
ในท่าทางที่แสดงออกเหมือนเป็นดังฝุ่นละอองรอบตัว

And the walls kept tumbling down
In the city that we love
Great clouds roll over the hills
Bringing darkness from above

But if you close your eyes,
Does it almost feel like
Nothing changed at all?
And if you close your eyes,
Does it almost feel like
You've been here before?
How am I gonna be an optimist about this?
How am I gonna be an optimist about this?

Oh where do we begin?
The rubble or our sins?

เราจะเริ่มต้นจากที่ไหนดี?
เศษซากวัตถุหรือบาปของเรา 
(เราจะแค่ทำความสะอาดและซ่อนความสกปรกไว้ หรือควรจะขุดลึกไปให้ถึงรากเหง้าของปัญหาก่อน ถ้าเลือกทางแรกคาดว่าความผิดพลาดก็จะยังคงดำเนินต่อไปจนเป็นวงจรแห่งความล่มสลาย)

Oh where do we begin?
The rubble or our sins?

And the walls kept tumbling down
In the city that we love
Great clouds roll over the hills
Bringing darkness from above

But if you close your eyes,
Does it almost feel like
Nothing changed at all?
And if you close your eyes,
Does it almost feel like
You've been here before?
How am I gonna be an optimist about this?
How am I gonna be an optimist about this?

If you close your eyes, does it almost feel like nothing changed at all?

ลองหลับตาดูสิ รู้สึกเหมือนไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงใช่มั๊ย?


วันพุธที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2556

Dear Dallin' - Olly Murs

หยุดเปิดเพลงนี้ไม่ได้เลย ชอบมว๊ากกกกก
ลองฟังกันดูนะ




เนื้อเพลงพร้อมคำแปล เครดิตจาก http://www.aelitaxtranslate.com/2013/05/olly-murs-dear-darlin.html ^^

Dear darlin’, please excuse my writing.
And I can’t stop my hands from shaking
'Cause I’m cold and alone tonight.

ถึงที่รัก ขอโทษเรื่องลายมือด้วย
 และผมหยุดมือไม่ให้สั่นไม่ได้จริงๆ
เพราะผมรู้สึกหนาวเหน็บและเปล่าเปลี่ยวจริงๆในคืนนี้

I miss you and nothing hurts like no you.
And no one understands what we went through.
 It was short. It was sweet. We tried.

ผมคิดถึงคุณ และไม่มีอะไรเจ็บปวดเท่ากับการไม่มีคุณอยู่ข้างกายอีกแล้ว
และไม่มีใครเข้าใจเลยว่าเราผ่านอะไรมาด้วยกันบ้าง
มันเป็นช่วงเวลาอันแสนสั้น แสนหวาน เราได้พยายามด้วยกัน

And if my words break through the wall
And meet you at your door,
All I can say is “Girl, I mean them all.”

และหากคำพูดของผมสามารถทำลายกำแพงนี้ไปได้
และไปพบกับคุณที่หน้าประตูบ้านคุณได้
ผมพูดได้แค่เพียงว่า "ที่รัก ผมตั้งใจพูดจริงๆนะ"

Dear darlin’, please excuse my writing.
And I can’t stop my hands from shaking
'Cause I’m cold and alone tonight.

ถึงที่รัก ขอโทษเรื่องลายมือด้วย
และผมหยุดมือไม่ให้สั่นไม่ได้จริงๆ
เพราะผมรู้สึกหนาวเหน็บและเปล่าเปลี่ยวจริงๆในคืนนี้

I miss you and nothing hurts like no you.
And no one understands what we went through.
It was short. It was sweet. We tried.

ผมคิดถึงคุณ และไม่มีอะไรเจ็บปวดเท่ากับการไม่มีคุณอยู่ข้างกายอีกแล้ว
และไม่มีใครเข้าใจเลยว่าเราผ่านอะไรมาด้วยกันบ้าง
มันเป็นช่วงเวลาอันแสนสั้น แสนหวาน เราได้พยายามด้วยกัน

I understand where he's coming from.

ฉันเข้าใจนะว่าเขามาจากไหน

Been thinking about the bar we drank in.
Feeling like the sofa was sinking.
I was warm in the hope of your eyes.

คิดถึงบาร์ที่เราไปนั่งดื่มด้วยกันสองคน
รู้สึกเหมือนโซฟานี้มันจมลงไป
ผมรู้สึกอบอุ่นมากๆในความหวังจากดวงตาของคุณ

So if my words break through the wall
To meet you at your door,
All I can say is “Girl, I mean them all.”

และหากคำพูดของผมสามารถทำลายกำแพงนี้ไปได้
และไปพบกับคุณที่หน้าประตูบ้านคุณได้
ผมพูดได้แค่เพียงว่า "ที่รัก ผมตั้งใจพูดจริงๆนะ"

Dear darlin’, please excuse my writing.
And I can’t stop my hands from shaking
'Cause I’m cold and alone tonight.

ถึงที่รัก ขอโทษเรื่องลายมือด้วย
และผมหยุดมือไม่ให้สั่นไม่ได้จริงๆ
เพราะผมรู้สึกหนาวเหน็บและเปล่าเปลี่ยวจริงๆในคืนนี้

I miss you and nothing hurts like no you.
And no one understands what we went through.
It was short. It was sweet. We tried.

ผมคิดถึงคุณ และไม่มีอะไรเจ็บปวดเท่ากับการไม่มีคุณอยู่ข้างกายอีกแล้ว
และไม่มีใครเข้าใจเลยว่าเราผ่านอะไรมาด้วยกันบ้าง
มันเป็นช่วงเวลาอันแสนสั้น แสนหวาน เราได้พยายามด้วยกัน

Oh I concur. These arms are yours to hold.
And I miss you and nothing hurts like no you.
And no one understands what we went through.
It was short. It was sweet. We tried. We tried.

ผมเห็นด้วยนะ อ้อมแขนคู่นี้จะมีแต่เพียงคุณเท่านั้น
ผมคิดถึงคุณ และไม่มีอะไรเจ็บปวดเท่ากับการไม่มีคุณอยู่ข้างกายอีกแล้ว
และไม่มีใครเข้าใจเลยว่าเราผ่านอะไรมาด้วยกันบ้าง
มันเป็นช่วงเวลาอันแสนสั้น แสนหวาน เราได้พยายามด้วยกัน เราได้พยายามด้วยกันมาแล้ว