วันจันทร์ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2557

Fear - Blue October เพลงให้กำลังใจกับคนที่รู้สึกกลัว

Fear - Blue October


เพลง Fear นั้นอยู่ในอัลบั้ม Sway ซึ่งเป็นอัลบั้มชุดที่ 7 แล้วของวงอัลเทอร์เนทีพร็อค Blue October  แต่งโดยนักร้องนำของวง Justin Furstenfeld ในแง่มุมของจิตใจ หลังจากทีเขาเอาชนะปัญหาเรื่องติดยาเสพติดและดื่มเหล้า

เพลงนี้พูดถึงสิ่งสำคัญที่ Justin ได้เรียนรู้หลังจากได้สติขึ้นมา ซึ่งเขาได้พูดไว้ว่า "เหตุผลที่ผมใช้ยาเสพติดและดื่มเหล้าเพราะความกลัว เหตุผลที่ผมไม่ยอมให้ตัวเองมีความสุขก็เพราะกลัวผลของมัน"

ศิลปิน Blue October
เพลง Fear


All my life
Been running from a pain in me
A feeling I don't understand
Holding me down

ตลอดทั้งชีวิต
ฉันได้แต่วิ่งหนีจากความเจ็บปวดของตัวเอง
ความรู้สึกที่ตัวฉันเองก็ไม่เข้าใจ
ทำได้เพียงก้มหน้าลง

So Rain on me
Underwater
All I am, getting harder
A heavy weight
I carry around.

ถาโถมมาที่ฉัน
ภายใต้ผิวน้ำ
ฉันทำได้แค่ พยายามให้มากขึ้นอีก
กับน้ำหนักมหาศาล
ที่ติดตามตัวฉัน

Today
I don't have to fall apart
I don't have to let the damage consume me,
My shadow see through me

วันนี้แหล่ะ
ฉันไม่จำเป็นต้องล้มเหลว
ไม่จำเป็นต้องยอมบุบสลาย
มันจะต้องผ่านไป

Cause fear in itself
Will reel you in and spit you out
Over and over again
Believe in yourself
And you will walk

ความกลัวนั้น
จะม้วนคุณเข้าไปและสำรอกออกมา
ซ้ำแล้วซ้ำอีก
ต้องเชื่อในตัวเอง
แล้วคุณจะเดินหน้าได้ต่อไป

Fear in itself will use you up
And break you down
like you were never enough
And I used to fall, now I get back up.

ด้วยว่าความกลัวสามารถกัดกินคุณ
ทำลายคุณ
เหมือนว่าไม่เคยพอ
ฉันเคยพ่ายแพ้ แต่ตอนนี้ฉันลุกขึ้นสู้

I'm up here
I'm looking at the way down there
I'm staring through the I don't care
It's staring back at me

ยืนอยู่บนนี้
มองลงไปยังทางข้างล่างนั่น
จ้องตรงไปยังสิ่งที่ฉันทำเป็นไม่แคร์
มันจ้องกลับมาที่ฉัน

Yeah, The beauty is
I'm learning how to face my beast
Starting now to find some peace
Set myself free

ใช่ สิ่งดีที่ฉันได้คือ
ได้เรียนรู้วิธีเผชิญสิ่งชั่วร้ายในตัว
เริ่มต้นมองหาความสงบ
ปลดปล่อยตัวเองให้เป็นอิสระ

Today,
I don't have to fall apart
I don't have to let the damage consume me,
My shadow see through me

วันนี้แหล่ะ
ฉันไม่จำเป็นต้องล้มเหลว
ไม่จำเป็นต้องยอมบุบสลาย
มันจะต้องผ่านไป

Cause Fear in itself
Will reel you in and spit you out
Over and over again
Believe in yourself
and you will walk

ความกลัวนั้น
จะม้วนคุณเข้าไปและสำรอกออกมา
ซ้ำแล้วซ้ำอีก
คุณต้องเชื่อในตัวเอง
ถึงจะเดินหน้าได้ต่อไป

Fear in itself
Will use you up and break you down
like you were never enough
I used to fall but now I get back up

ด้วยว่าความกลัวสามารถกัดกินคุณ
ทำลายคุณ
เหมือนว่าไม่เคยพอ
ฉันเคยพ่ายแพ้ แต่ตอนนี้ฉันลุกขึ้นสู้

I'm moving on
Oh god just move on

ฉันยังคงเดินหน้าต่อไป
โอ้พระเจ้า ก้าวต่อไป

Today,
I don't have to fall apart
I don't have to be afraid....
Get back up
Get up

วันนี้แหล่ะ
ฉันไม่จำเป็นต้องล้มเหลว
ไม่จำเป็นต้องกลัว
จงลุกขึ้นมา
ลุกขึ้นสู้

Fear in itself can use you up
And it breaks you down
Just like you're never enough
I used to fall

ด้วยว่าความกลัวสามารถกัดกินคุณ
ทำลายคุณ
เหมือนว่ายังไม่สาสม
ฉันเคยล้มเหลว

Breathe,
Ask for more
if you're bitter still
Ask him to help you carry on.

สูดลมหายใจ
จงเรียกร้อง (เพราะคุณสมควรได้มัน)
ถ้าคุณยังคงทุกข์ระทม
ถามเขา (พระเจ้า) ให้ช่วยที


วันจันทร์ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

อันเนื่องมาจาก The Voice Thailand - อิมเมจ VS เอิร์น - Torn - 2 Nov 2014

เพลง Torn

จากที่ดู The Voice Thailand Season 3 รอบ Battle Round ระหว่าง อิมเมจกับเอิร์น เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (2 พฤศจิกายน 2557) เลยคิดอยากแปลเพลงนี้ขึ้นมา แน่นอนว่าเพลงนี้จะคุ้นหูสำหรับพวกเราที่อยู่ในวัยรุ่น (ตอนปลาย) จากการร้องของสาว Natalie Imbruglia ศิลปินชาวออสเตรเลีย ในอัลบั้ม Left of the Middle เมื่อปี พ.ศ. 2540 

จริงๆ แล้วคำว่า torn มาจากกริยาคำว่า tear (V.1)  tore (V.2)   torn (V.3) ที่แปลว่าฉีกออก  ในกรณีของเพลงนี้ I am torn ถ้าแปลตรงๆ คือ ฉันถูกทำให้ฉีกออก (S. + Verb to be + V.3) หรือก็คือฉันรู้สึกเจ็บปวด/แตกสลาย/พังทลาย หรือ I'm broken นั่นเอง ว่าแล้วก็ไปฟังกันเลยดีกว่า






I thought I saw a man brought to life
He was warm, he came around and he was dignified
He showed me what it was to cry

ฉันเคยคิดว่าได้พบกับชายคนนั้น คนที่ทำให้ฉันรู้สึกมีชีวิตจิตใจ
เขานั้นแสนอบอุ่น ใส่ใจ และกล้าหาญ
ทำให้ฉันได้รู้ น้ำตามีไว้เพื่อสิ่งใด

Well, you couldn't be that man I adored
You don't seem to know,  seem to care what your heart is for
But I don't know him anymore

เอาเถอะ เธอคงไม่อาจเป็นชายคนนั้นที่ฉันรัก
เธอดูไม่รู้และไม่แคร์ถึงหัวใจที่มี
ฉันแทบไม่รู้จักเขาเลย

There's nothing where he used to lie
My conversation has run dry
That's whats going on, nothing's fine I'm torn

ไม่เหลืออะไรกับสิ่งที่เขาเคยโกหก
แล้วคำพูดของฉันก็แห้งผาก
นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่เหลืออะไรดีและฉันนี้แสนเจ็บปวด

* I'm all out of faith, this is how I feel
I'm cold and I am shamed lying naked on the floor
Illusion never changed into something real
I'm wide awake and I can see the perfect sky is torn
You're a little late, I'm already torn

หมดศรัทธาในตัวคุณ นี่คือสิ่งที่ฉันรู้สึก
หนาวเหน็บและอับอาย คล้ายนอนเปลือยอยู่บนพื้น
ภาพลวงตาไม่อาจเป็นจริง
ตื่นมาเจอท้องฟ้างดงามต้องพังทลาย
สายเกินไปแล้วล่ะที่รัก ฉันขาดวิ่นไม่เหลือชิ้นดี

So I guess the fortune teller's right
Should have seen just what was there 
And not some holy light

นักทำนายคนนั้นคงพูดถูก
ควรมองโลกที่เห็นตามจริง
ไม่ใช่ในสิ่งที่งมงาย

It crawled beneath my veins
And now I don't care, I have no luck, 
I don't miss it all that much
There's just so many things 
That I can touch, I'm torn

ในตอนนั้นเหมือนมันฝังรากลึกอยู่ภายใน
แต่ตอนนี้ฉันไม่แคร์แล้ว ฉันก็แค่ไม่มีโชค
ไม่คิดเสียดายเท่าไร
เพราะมีหลายสิ่งเหลือเกิน
ที่ฉันสัมผัสได้ว่า เธอนั่นแหล่ะที่ทำฉันใจสลาย

[Repeat *]

I'm all out of faith, this is how I feel
I'm cold and I'm ashamed 
Bound and broken on the floor
You're a little late, I'm already torn, torn.

ฉันรู้สึกหมดศรัทธาในตัวเธอ
ฉันหนาวและอับอาย
แตกสลายภายใต้พันธนาการแห่งรักเรา
มันสายไปแล้ว ฉันเจ็บปวด เจ็บปวดเหลือเกิน

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
หมายเหตุ: เนื้อเพลงจะต่างจากเวอร์ชั่นของ Natalie Imbruglia เล็กน้อยนะ เพราะยึดเอาตามที่ อิมเมจกับเอิร์นร้องในเวอร์ชั่นของ The Voice Thailand 2014